“ผู้นำ”
ให้มานำองค์กร นำผู้ตาม อย่าให้นำไปสู่… หายนะ
เช็ค 3 อาการ ถ้ามี เปลี่ยนซะ

►เป็นกันมากกับคำว่า “ผู้นำ” บนผืนปฐพีไทยของเรา ฅนไทยเป็นมนุษย์พันธุ์พิเศษ บริหารยาก แถเยอะ ต้องยอมรับกันก่อนว่า ไทยนี้รักสงบ ทำได้ตามใจคือไทยแท้ ไปไหนไปกัน ลูบหน้าปะจมูก คงความเป็นเอกราชเพราะรู้จักเลือกทั้งสองข้าง ฯลฯ Thailand only จริงๆ

 

มีผู้เขียนบทความนามกร Sutisophan เธอเขียนเรื่อง “ผู้นำขั้นวิกฤต”...ผมขอนำมาขยายต่อในบริบทแบบ AJK ผมว่านะ ถ้าออกอาการ 3 อาการนี้เมื่อไหร่ มึงเตรียมพร้อมได้เลย...ถึงขั้นบริหารนำพาองค์กรบรรลัย หายนะได้เหมือนกัน ไม่ก็หาความเจริญก้าวหน้าต่อไปไม่ได้

อาการที่ 1. ผู้นำไม่รู้ว่าต้องทำอะไร?

 เออ. อาการแรกก็ไปไม่เป็นแล้วครับ คือมันผู้นั้นไม่ควรเป็นผู้นำ เว้นแต่มันเป็นเจ้าของก็ให้พาองค์กรมันไปลงเหวได้เลยมีที่ไหน...ตัวมันเองยังไม่รู้ต้องทำอะไร ต้องฝันอะไร นำพาองค์กรไปทิศทางไหน ก็ป่วยการสิ้นดี เพราะปฐมบทแห่งการนำพาและขับเคลื่อนองค์กร มันเริ่มต้นตรงจุดนี้ ผมเองเป็นที่ปรึกษาแบบสร้างแรงบันดาลใจแล้ว แม่งต้องเข้าไปเป็นผู้บริหารด้วยเพื่อจะได้แสดงให้ดูเป็นตัวอย่าง (ต้องได้เห็นเป็นประจักษ์ ไอ้พวกคนจ้างที่ปรึกษามันชอบแอบนินทาว่าบอกๆๆ ใช้ให้กูทำแบบนั้นแบบนี้ โยนการบ้านให้ ไม่รับผิดชอบนี่หว่า มันทำเองเป็นป่าวว่ะ) ผมเชื่อว่าให้แต่คำปรึกษาอย่างเดียวมึงไม่ get ก็เหมือนเดิม เสียตังค์ให้ที่ปรึกษาแล้วไม่เวิร์ค เพราะงานให้คำปรึกษาด้านบริหาร ด้านผู้นำมันไม่มีอะไรถูกอะไรผิด มันไม่เหมือนที่ปรึกษาด้านกฎหมายมึงสามารถชี้ถูกชี้ผิดได้เลย จริงม๊ะ ฉะนั้นที่ปรึกษาแบบมืออาชีพรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ มึงต้องลองทำให้ลูกค้าดูแล้วค่อยๆ ปล่อยให้มันทำด้วยตัวเองให้เป็น ที่ปรึกษาเป็นโค้ชเป็นพี่เลี้ยงด้วย องค์กรที่คุณไปให้คำปรึกษาจะได้คิดต่อยอดเองได้ เค้าไม่ต้องการที่ปรึกษาตามติดสิงอยู่ในองค์กรเค้าตลอดเวลาหรอก บ้านเราติดวิชาการ ทฤษฎีเลยเถิด เลยทำกันไม่เป็น เห็นแต่ทำได้เท่านั้น อย่างการจะให้มีและขับเคลื่อน Vision Mission ได้จริงจังก็เหมือนกัน มัวแต่ไปบ้าตามศัพท์นิยาม ติดรูปแบบ การบริหารนะโว๊ยมึงไม่ได้เรียนหนังสือและใช้กฎหมาย ไม่ต้องไปนิยาม ให้ใช้สมองจินตนาการเอาจาก สินค้า บริการ ผลิตภัณฑ์ สภาพที่เห็นและเป็นอยู่ โลกภายนอกไปถึงไหน แนวโน้มธุรกิจมึงล่ะ ทำนองนี้ แล้วมึงฝันซิจะวางองค์กรมึงไปทิศทางไหน นั่นคือ Vision แต่ไม่ฝันเฟื่องฝันเป็นไปไม่ได้ด้วยนะ ข้อสำคัญต้อง execute ลงมือเอาฝันที่มึงวาดมุ่งมั่นและเอาไปทำ การมี Vision คือฝันให้ไกล การมี Mission คือทำไงไปให้ถึง ต้องวางแผนกลยุทธ์แบบไม่ตบตา คือมึงมี Time frame ชัดๆ หัดเรียนรู้เยอะๆ มีจุดยืน เป็นตัวของตัวเอง ท้าทาย โลดโผนได้ แต่อย่าโลเลเปลี่ยนไปเรื่อยแบบมั่วๆ ต้องไม่ใช่ข้อความชวนเชื่อ งามๆ ทำให้คนหลงไหล ได้ปลื้มและมองว่ามีว่ะ บริษัทกูมีวิสัยทัศน์แล้ว แต่มึงย่ำอยู่กับที่เนี่ยอ่ะนะ หัดทำซะ ต้องรู้ตัวเองแล้วว่าต้องทำอะไรแล้ว ผู้นำที่บอกว่า “กูก็ไม่รู้เหมือนกัน” มึงจ้างมันมาให้เปลืองทรัพยากรมึงทำไม ไม่รู้ก็คัดมันออกไปจากองค์กรได้เลยครับ

 

 

อาการที่ 2. ผู้นำไม่รู้ว่าทำไมต้องทำ?

มันคือความรับผิดชอบของมึงป่าว? ห๊ะ...เมื่อมึงเองยังไม่รู้แล้วคนอื่นๆ ลูกน้อง ลูกพี่...จะรู้มั๊ย อาการไม่รู้ แบบขีดวงตีกรอบนี่ไม่ใช่ของกู มึงรับไปทำ โยนไปเรื่อย จนเกิดพื้นที่ผลักความรับผิดชอบ แล้วจะเหลืออะไรทีนี้ กลับไปทำความเข้าใจว่าหน้าที่และความรับผิดชอบของคนที่เป็น “ผู้นำ” คืออะไร เผื่อมึงจะซาบซึ้งในบริบทที่ตัวมึงเป็นอยู่ขณะนี้ ก็อาจ...เป็นได้

 

อาการที่ 3. ผู้นำไม่รู้ว่าทำอย่างไร?

 อันนี้อย่าไปจ้างมันดีกว่ามั๊ย คนตามเอวังด้วยประการฉะนี้เลยทีเดียว ขาดทักษะการ “ทำ” เพื่อ “นำ” ให้คนอื่นๆ เชื่อและคล้อยตามไม่ได้นี้ โง่บัดซบเลยนะครับ แล้วศรัทธาของผู้ตามจะยังมีเหลืออีกหรือ เฮ้อ!

มึงก็ทำตามแผนบริหารกลยุทธ์ซิค้า... ทำไงอ่ะ? เออ มึงถามแบบนี้ก็จ้างที่ปรึกษาซิ จ้างแล้วตั้งใจกอบโกยความรู้ความเข้าใจให้เต็มที่ หาที่ปรึกษาที่มันเก่งจริงๆ ไม่ง่ายๆ ตาดีได้ตาร้ายเสีย หาเอาเองนะจ๊ะ

 

จริงๆ ต้องคัดสรรคนนำให้ดีแต่แรกเริ่มนะ จะมาเห็นว่าออก อาการ 3 ข้อที่ว่า นี่มันโคม่าและใกล้ตายแล้วนะครับ องค์กรท่านเตรียมผู้นำดีพอหรือยังที่ไม่เกิดภาวะวิกฤตินี้ขึ้นมาได้ ป้องกันก่อนหาทางแก้ไขและเยียวยา จะอั้นจนไม่ไหวแล้วเยี่ยวเล็ดเยี่ยวราดออกมา คงไม่ดีเป็นแน่ครับ

 

 อยากจะขอคำแนะนำ ปรึกษาผมได้ ผมเป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านผู้นำในรูปแบบจริงจัง พูดตรง ถ้ารับไม่ได้ไปหาคนอื่นเลย ไม่ง้อนะจ๊ะ ผมชอบให้คำปรึกษาแบบมองตามความจริงที่เห็นและเป็นอยู่ขององค์กรนั้นๆ แล้วหาทางปรับเปลี่ยนให้ ถ้าเชื่อผมองค์กรคุณเจริญเร็ว แรง และยาวนานแน่นอน ผมไม่บ้าไม่นิยมทฤษฎีจ๋าจนเกินไป ใช้อ้างอิงได้เฉพาะที่เอามาทำแล้วสำเร็จ จริงๆ ในโลกนี้ทฤษฎีที่นำมาใช้กับคนไทย องค์กรไทยมีที่ใช้ได้เห็นผลแค่ 9% เท่านั้น บ้านเราปัจจัยผันผวนที่ส่งผลต่อการบริหารมันเยอะที่เป็นภูเขาน้ำแข็งใต้น้ำอ่ะ โคตรเยอะเลย ไอ้ทฤษฎีฝรั่งจะได้ได้เมื่อมึงเป็นคนเอาจริง ตรงไปตรงมา ไม่มีคอรัปชั่น ไม่ลูบหน้าปะจมูก ไม่ดัดจริต มึงทำได้ป่าว ก็ป่าว จริงม๊ะ?

ฉะนั้น จะนำทฤษฎีมาใช้ได้บ้างแต่ต้องคัดกรองว่ามันเหมาะกับผู้นำจริตแบบไทยๆ ป่าว ก็แค่นั้น

 

@สำนักงานอาจารย์กฤษฎ์

AJK's Mission Development Center (AJK-MDC)

17.01.2561 ‘ 11:46 น.

✺Credit : อาจารย์กฤษฎ์ อุทัยรัตน์

นักวิทย์ศิลป์ Sc̫ίArϯίṧt

Ref. : www.KRISZD.com  by  ꍏj.Kяιꌗz∂ ꀎ-✞ɧąıཞa̘̫͈̭͌͛͌̇̇̍ṭⒸ

ωωω.ƘRISZD.ꉓom     ëMail :   KDV@KRISZD.com , Kriszd@Kriszd.com

 

ท่านสามารถ Download pdf file ได้ที่นี่ /ผู้นำ 3 อาการ หายนะองค์กร.pdf

ดูได้ใน LinkedIN : https://www.linkedin.com/pulse/%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%B3-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%81%E0%B8%A3-%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%AA-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%B0-%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%84-3-%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3-%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%AD-%E0%B8%97-%E0%B8%A2%E0%B8%A3-%E0%B8%95%E0%B8%99-/